SE-AT6550C:เครื่องสแกนกระเป๋า เครื่องเอ็กซ์เรย์กระเป๋าสัมภาระ X-Ray Baggage Scanner
Related Documents:
SE-AT6550C-Baggage-Xray-Scanner-datasheet.pdf
-Tunnel size(mm) 659(L)*504(W)
-Conveyor Speed(m/s) 0.22
-Conveyor height(mm) 700
-Conveyor Max Load(kgs) 150
-X ray dose per each inspection ≤2.5 μGy
-X ray leakage <1μGy/h at any point 5 centimeters outside the external surface
-Penetration 30 mm steel
## Image System :
-X-ray Sensor L-Shaped Photodiode Array, 12bit deep
-Images process 24bit real time processing ,4colors analysis, Images displayed marked date and
ID No., Count the number of bags
-Image display High resolution of 1920*1080 pixel; Image Grey Level: 65536
## Operating Environment:
Operation temperature/Humidity 5℃-40℃ / 0%-90%(non-condensing)Storage Temperature/Humidity -20℃to 60℃ / 10%-90%(non-condensing)
Operation Power 220VAC(±10%) 50±3Hz (Options: 110-120V, 230-240V, 60Hz)
## X-ray Generator:
Anode Voltage 160 KV
Ray direction Upward
Cooling / Duty Cycle Sealed oil cooling /100%
SE-AT6550C เครื่องสแกนกระเป๋าเดินทาง พัสดุ สัมภาระ
เครื่องสแกนกระเป๋าประเภท X‑ray baggage scanner เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบความปลอดภัยของสนามบิน สถานีขนส่ง และจุดตรวจทั่วไป โดยทำงานโดยใช้รังสี X-ray เพื่อสร้างภาพภายในของกระเป๋าหรือสัมภาระ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะวิเคราะห์ภาพเพื่อตรวจหาวัตถุอันตราย เช่น อาวุธ วัตถุระเบิด สารผิดกฎหมาย หรือวัตถุอื่นที่ไม่อนุญาตให้เข้าสถานที่ คัดกรองได้รวดเร็วและปลอดภัย
วิธีการทำงานของเครื่องสแกนกระเป๋า X‑ray
-
สร้างรังสี X-ray: เครื่องจะยิงรังสี X-ray ผ่านกระเป๋า โดยใช้ลำแสงที่มีพลังงานต่ำ
-
การดูดกลืนรังสี: วัสดุแต่ละชนิดในกระเป๋าจะดูดกลืน X-ray ต่างกัน—เช่น โลหะดูดกลืนน้อยกว่าสารอินทรีย์
-
ตัวตรวจจับและแปลงสัญญาณ: เครื่องจะจับแสง X-ray ที่ทะลุกระเป๋าและแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า จากนั้นแสดงเป็นภาพบนหน้าจอให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์
คำถามที่พบบ่อย ของเครื่อง เอกซ์เรย์กระเป๋า
Q1: เครื่องสแกนกระเป๋า X‑ray ปลอดภัยหรือไม่?
ใช่ ปลอดภัยต่อผู้คนในบริเวณใกล้เคียง แม้จะใช้รังสี X‑ray แต่เครื่องระบบดีไซน์ให้ปล่อยรังสีในระดับต่ำ เช่น ไม่เกิน 0.5 milliroentgen ต่อชั่วโมง ตามมาตรฐานของ FDA ที่กำหนดไว้สำหรับระบบ cabinet X‑ray และยังปลอดภัยแม้สำหรับหญิงตั้งครรภ์
Q2: การสแกนจะทำให้ฟิล์มหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหายหรือไม่?
โดยทั่วไป ไม่ทำให้เสียหาย แม้กระนั้น ฟิล์มถ่ายภาพที่มีค่า ISO สูง (เช่น 800 หรือมากกว่า) อาจฟุ้งหรือเสียหายได้ โดยเฉพาะหากผ่านหลายครั้งหรือถูกสแกนในระบบตรวจกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง (checked baggage) ซึ่งใช้รังสีแรงกว่า ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่มีปัญหาในการใช้งานจากการสแกนนี้
Q3: สีบนภาพ X‑ray แสดงถึงอะไร?
เครื่องสแกนบางรุ่นใช้ภาพสีเพื่อช่วยแยกแยะประเภทของวัสดุ เช่น สีต่าง ๆ บ่งบอกถึงโลหะ สารอินทรีย์ หรือพลาสติก ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ระบุวัตถุได้ง่ายขึ้น
Q4: เครื่องสแกนแบบ CT ต่างจาก X‑ray ธรรมดาอย่างไร?
CT (Computed Tomography) ใช้เทคนิคสแกนหลายมุมและประมวลผลภาพ 2D หลายภาพให้เป็นภาพ 3D ซึ่งละเอียดกว่า ลดความจำเป็นในการนำของออกจากกระเป๋า เช่น ของเหลวหรือแล็ปท็อป และช่วยให้การตรวจเร็วขึ้น
"เครื่องสแกนกระเป๋า X‑ray คืออะไร?"เครื่องที่ใช้รังสี X-ray สร้างภาพภายในกระเป๋าเพื่อช่วยตรวจหาวัตถุต้องสงสัย
"เครื่องสแกนกระเป๋าแบบ CT คืออะไร?"ระบบที่สร้างภาพ 3D โดยยิงรังสีหลายมุมรอบกระเป๋า แล้วประมวลผลภาพหลายภาพให้เป็นภาพสามมิติ เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการตรวจ
"สีต่าง ๆ บนภาพ X‑ray มีความหมายอย่างไร?"สีแต่ละสีบ่งบอกวัสดุต่างชนิด เช่น โลหะ สารอินทรีย์ หรือพลาสติก เพื่อช่วยแยกแยะวัตถุในภาพ
"เครื่องสแกนกระเป๋าเป็นอันตรายหรือไม่?"
ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และประชาชน เพราะมีการควบคุมระดับรังสีให้อยู่ในค่าที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
"เครื่องสแกนทำให้ฟิล์มเสียหรือไม่?"
ฟิล์ม ISO ต่ำมักปลอดภัย แต่ฟิล์ม ISO สูง (เช่น ≥800) อาจถูกฟุ้งเมื่อผ่านหลายครั้ง โดยเฉพาะในการสแกนสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง
“ทำไมต้องถอดของเหลวหรือแล็ปท็อปออกจากกระเป๋าก่อนสแกน?”
1. บังคับถอดเพราะอะไร? ทำไมต้องถอดของเหลวและแล็ปท็อป?
เครื่องสแกน X‑ray แบบดั้งเดิม
แล็ปท็อปมีแบตเตอรี่และชิ้นส่วนภายในที่หนาแน่น (dense) จนรังสี X‑ray แทรกทะลุผ่านได้ยาก เครื่องจึงไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อาจซ่อนอยู่ใต้หรือภายในได้ชัดเจน
วัสดุที่หนาแน่นเหล่านี้สามารถบดบังรายการสำคัญอื่นภายในกระเป๋า เช่น วัตถุต้องสงสัยหรือวัตถุอันตราย ทำให้ตรวจสอบได้ลำบาก
แล็ปท็อปมีแบตเตอรี่และชิ้นส่วนภายในที่หนาแน่น (dense) จนรังสี X‑ray แทรกทะลุผ่านได้ยาก เครื่องจึงไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อาจซ่อนอยู่ใต้หรือภายในได้ชัดเจน
วัสดุที่หนาแน่นเหล่านี้สามารถบดบังรายการสำคัญอื่นภายในกระเป๋า เช่น วัตถุต้องสงสัยหรือวัตถุอันตราย ทำให้ตรวจสอบได้ลำบาก
2. แล้วทำไมต้องถอดของเหลว?
กรณีของเหลว (LAGs) เช่น น้ำ ผลิตภัณฑ์ในรูปน้ำ เจล หรือสเปรย์ มักถูกจำกัดการเอาผ่านการสแกน เนื่องจาก:
บางครั้งอาจซ่อนสารอันตรายได้
การแยกเป็นวิธีง่ายที่สุดที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ผิดกฎหมายหรืออันตราย
แต่หลัก ๆ เหตุผลคือเพื่อความชัดเจนและความปลอดภัยในการตัดสินใจตรวจสอบ

