SE-AT6040:เครื่องสแกนกระเป๋า เครื่องเอ็กซ์เรย์กระเป๋าสัมภาระ X-Ray Baggage Scanner
เอกสารที่เกี่ยวข้อง สเปค คุณสมบัติ คู่มือ
-Tunnel size(mm) 613(W) * 409.5(H)
-Conveyor Speed(m/s) 0.20
-Conveyor height(mm) —
-Conveyor Max Load(kgs) 160
-X ray dose per each inspection ≤4.5 μGy
-X ray leakage <0.5 μGy/h at any point
-Penetration 38 mm steel
## Image System :
-X-ray Sensor L-Shaped Photodiode Array, 12bit deep
-Images process Color/BW, Negative, High & Low Penetration, Organic/Inorganic stripping, Pseudo color, Real-time enhancement, Image date & ID marking, Bag counting
-Image display High resolution, Image Grey Level: 65536, Image recall 30 images, Storage up to 10,000 images
## Operating Environment:
-Operation temperature/Humidity 5℃-40℃ / 0%-90% (non-condensing)
-Storage Temperature/Humidity -20℃ to 60℃ / 10%-90% (non-condensing)
-Operation Power 220VAC(±10%-15%) 50±3Hz
## X-ray Generator:
-Anode Voltage 160 KV
-Ray direction Upward
-Cooling / Duty Cycle Sealed oil cooling / 100%
⭐ รีวิวแบบเข้าใจง่าย: “เครื่องสแกนกระเป๋า–พัสดุ–สัมภาระ” ตัวช่วยคัดกรองความปลอดภัยที่ธุรกิจยุคนี้ขาดไม่ได้
เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัย เช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน คลังพัสดุ บริษัทขนส่ง ศูนย์ไปรษณีย์ สนามกีฬา และสถานที่ที่มีคนเข้า–ออกเยอะ
🔍 เครื่องสแกนกระเป๋าคืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง?
“เครื่องสแกนกระเป๋า” หรือ X-Ray Baggage Scanner คืออุปกรณ์ที่ใช้รังสีเอกซ์ยิงทะลุผ่านกระเป๋า พัสดุ กล่อง หรือสัมภาระ แล้วแสดงภาพด้านในเป็นสีแบบแยกวัสดุ ช่วยให้เจ้าหน้าที่รู้ได้ทันทีว่าในกระเป๋ามีสิ่งที่อาจเป็นอันตรายหรือไม่ เช่น โลหะ วัตถุแปลกปลอม แบตเตอรี่ดัดแปลง ของต้องสงสัย ฯลฯ
✔ ไม่ต้องเปิดกระเป๋า
✔ รวดเร็ว
✔ ปลอดภัย
✔ ใช้ได้กับสถานที่คนเยอะหรือคลังพัสดุปริมาณมาก
☑ จุดเด่นของเครื่องตรวจกระเป๋าที่ดี (สรุปแบบคนใช้งานจริง)
สิ่งที่ควรดูเป็นพิเศษ
1. ขนาดอุโมงค์ตรวจกระเป๋า (Tunnel Size) – ถ้าตรวจพัสดุเยอะ เลือกอุโมงค์ใหญ่ – ถ้าตรวจแค่กระเป๋าถือ เลือกขนาดประหยัด
2. พลังทะลุของรังสี (Penetration Power) – ยิ่งแรง ยิ่งเห็นทะลุวัสดุแข็งหรือโลหะได้ดี
3. ฟังก์ชันแยกสีวัสดุ (Material Classification) – แยกระหว่าง “โลหะ / อินทรีย์ / พลาสติก / วัตถุหนาแน่น” – ทำให้การค้นหาสิ่งผิดปกติง่ายขึ้นมาก
4. สายพานตรวจกระเป๋า – ควรลื่นไหล ไม่กระตุก รองรับน้ำหนักเยอะ – คลังพัสดุควรเลือกรุ่นที่ “ทน + เร็ว”
5. ความปลอดภัยเรื่องรังสี – ต้องมีมาตรฐานรองรับ – ระดับรังสีรั่วต้องต่ำตามกฎหมายกำหนด
6. ระบบเสริม (ที่ช่วยชีวิตตอนงานเยอะ) – บันทึกภาพ – Zoom / Enhance / Auto detection – Dual-energy มองเห็นชัดขึ้นมาก
🔥 FAQs ที่คนถามบ่อย
1) เครื่องสแกนกระเป๋าอันตรายไหม?
ปลอดภัยครับ รังสีถูกควบคุมอยู่ในอุโมงค์และมีมาตรฐานความปลอดภัยชัดเจน
2) ใช้กับพัสดุได้ไหม หรือเฉพาะกระเป๋า?
ใช้ได้ทั้ง “พัสดุ กล่องสินค้า และสัมภาระทุกแบบ”
3) ต้องใช้คนดูภาพหรือระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ?
รุ่นใหม่มีระบบช่วยวิเคราะห์ภาพ แต่ยังต้องมีเจ้าหน้าที่ดูควบคู่กัน
4) เครื่องแสกนพัสดุต่างจากเครื่องสแกนกระเป๋าไหม?
หลักการเหมือนกัน แต่รุ่นพัสดุมักมีสายพานใหญ่กว่าและรับน้ำหนักมากกว่า
5) เอาไปใช้ในงานอีเวนต์แบบเคลื่อนที่ได้ไหม?
ได้ ถ้าเลือกรุ่นขนาดกลางและมีล้อเคลื่อนย้าย
6) อายุการใช้งานนานแค่ไหน?
ส่วนใหญ่ 5–10 ปี ขึ้นกับการบำรุงรักษา
"เครื่องสแกนกระเป๋า X‑ray คืออะไร?"เครื่องที่ใช้รังสี X-ray สร้างภาพภายในกระเป๋าเพื่อช่วยตรวจหาวัตถุต้องสงสัย
"เครื่องสแกนกระเป๋าแบบ CT คืออะไร?"ระบบที่สร้างภาพ 3D โดยยิงรังสีหลายมุมรอบกระเป๋า แล้วประมวลผลภาพหลายภาพให้เป็นภาพสามมิติ เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการตรวจ
"สีต่าง ๆ บนภาพ X‑ray มีความหมายอย่างไร?"สีแต่ละสีบ่งบอกวัสดุต่างชนิด เช่น โลหะ สารอินทรีย์ หรือพลาสติก เพื่อช่วยแยกแยะวัตถุในภาพ
"เครื่องสแกนกระเป๋าเป็นอันตรายหรือไม่?"
ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และประชาชน เพราะมีการควบคุมระดับรังสีให้อยู่ในค่าที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
"เครื่องสแกนทำให้ฟิล์มเสียหรือไม่?"
ฟิล์ม ISO ต่ำมักปลอดภัย แต่ฟิล์ม ISO สูง (เช่น ≥800) อาจถูกฟุ้งเมื่อผ่านหลายครั้ง โดยเฉพาะในการสแกนสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง
“ทำไมต้องถอดของเหลวหรือแล็ปท็อปออกจากกระเป๋าก่อนสแกน?”
1. บังคับถอดเพราะอะไร? ทำไมต้องถอดของเหลวและแล็ปท็อป?
เครื่องสแกน X‑ray แบบดั้งเดิม
แล็ปท็อปมีแบตเตอรี่และชิ้นส่วนภายในที่หนาแน่น (dense) จนรังสี X‑ray แทรกทะลุผ่านได้ยาก เครื่องจึงไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อาจซ่อนอยู่ใต้หรือภายในได้ชัดเจน
วัสดุที่หนาแน่นเหล่านี้สามารถบดบังรายการสำคัญอื่นภายในกระเป๋า เช่น วัตถุต้องสงสัยหรือวัตถุอันตราย ทำให้ตรวจสอบได้ลำบาก
แล็ปท็อปมีแบตเตอรี่และชิ้นส่วนภายในที่หนาแน่น (dense) จนรังสี X‑ray แทรกทะลุผ่านได้ยาก เครื่องจึงไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อาจซ่อนอยู่ใต้หรือภายในได้ชัดเจน
วัสดุที่หนาแน่นเหล่านี้สามารถบดบังรายการสำคัญอื่นภายในกระเป๋า เช่น วัตถุต้องสงสัยหรือวัตถุอันตราย ทำให้ตรวจสอบได้ลำบาก
2. แล้วทำไมต้องถอดของเหลว?
กรณีของเหลว (LAGs) เช่น น้ำ ผลิตภัณฑ์ในรูปน้ำ เจล หรือสเปรย์ มักถูกจำกัดการเอาผ่านการสแกน เนื่องจาก:
บางครั้งอาจซ่อนสารอันตรายได้
การแยกเป็นวิธีง่ายที่สุดที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ผิดกฎหมายหรืออันตราย
แต่หลัก ๆ เหตุผลคือเพื่อความชัดเจนและความปลอดภัยในการตัดสินใจตรวจสอบ

